ล็อตตะรี่
ในงานปีนี้ไข้ล็อตตะรี่อยู่ข้างจะชุกชุม,
ซึ่งมีผู้สังเกตดังต่อไปนี้ :-
๑. ตั๋วฉลากรถยนต์มีหลายแห่ง,
แต่เหตุใดไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดได้รถยนต์ไปเลย,
เห็นแต่เจ้าของนำรถกลับบ้านทุกคน.
๒.
ร้านหลวงรามเบญญามีออกฉลากเครื่องเรือน,
ซึ่งถ้าใครถูกไปจักได้เปนทุนในการแต่งงาน.
๓.
สมาชิกของเราผู้ช่างคำนวณได้กล่าวว่า :-
ถ้าล็อตตะรี่ที่ข้าพเจ้าซื้อถูกหมดทุกๆ ใบ,
ข้าพเจ้าจะลำบากอยู่บ้าง,
เพราะจะเปนเจ้าของรถยนต์ประมาณ ๕ หลัง,
ตุ้มหูเพ็ชร์ ๒ คู่, สายสร้อย ๑ สาย, แหวน
๑ วง, และเงินประมาณ ๑๐๐๐๐ บาท.
แต่พะเอินไม่ได้ถูกจนรายเดียว
การพนัน
คราวนี้อยู่ข้างจะชุกชุมมาก
จนออกน่ารำคาญ. บางรายก็เล่นพอชอบมาพากล,
แต่บางรายก็เล่นดื้อๆ.
เขาว่าเจ้าพนักงานจับผู้ที่ออกเล่นโดยไม่ได้ขออนุญาตเสียก็หลายราย.
สะใจ! ค่อยหายเหม็นสาบไปหน่อย!
ในจำพวกนับว่าเปนอย่างผู้ดีมีอยู่ราย ๑
ที่ร้องตะโกนเชิญผู้เล่นเปนคำว่า
"เชิญแทงมอนติคาโร ๑ บาทได้ ๓๐ บาท
๑ สลึงได้ ๓๐ สลึง!"
แต่การที่จะแทง "มอนติคาโร"
นั้นดูออกจะยากๆ, เพราะประการ ๑
เมืองมอนติคาโรก็ไม่มีในโลก,
มีแต่มอนติคาร์โล,
และอีกประการหนึ่ง ๑
ก็เปนเมืองที่อยู่ห่างไกลพระราชอาณาจักรสยามมาก,
น่ากลัวจะไม่มีอะไรแทงถึงได้!
เบ็ดเตล็ด
๑. ร้านหลวงมีชื่อเรียกกันต่างๆ,
คือเราได้ยินผู้หญิงชาววังเรียกกันว่า
"ร้านน้อมเกล้าฯ"
(เนื่องจากฉลากที่ผูกของ),
และผู้ชายเรียกกันว่า
"ร้านโปเก."
แต่จะชื่ออะไรก็ตาม, ของขายดีมาก,
เพราะเปนร้านเดียวที่ไม่ขูดเลือดซิบๆ.
๒.
ร้านป้อเปี๊ยมีป้ายติดตัวเบ้อเร่อ,
ซึ่งเขียนรูปตัวอักษรชอบกล,
จึ่งมีคนอ่านบ้างว่า "เชิญรัชรทานช้อเชี้ย!"
๓. ชายบางคนใช้ประทัดลมและ
"คอนเฟ็ตตี้"
เปนเครื่องช่วยในการสมาคมกับผู้หญิง.
แต่เราเห็นว่า
ถ้าจะให้ผู้หญิงต้องแลดูตนโดยแน่นอนละก็ใช้ลูกระเบิดจะดีกว่ากระมัง?
๔. เราได้ทราบว่า
เจ้าพนักงานผู้ใหญ่ฝ่ายกระทรวงวังไม่เปนที่พอใจเลยในการที่มีผู้ชายไปเดินยุ่งอยู่ที่ริมๆ
ร้านข้างใน, แต่ตรงข้าม
ข้างในเองท่านไม่พอพระไทยในการที่กรมวังคอยกันคนไม่ให้ไปร้านของท่าน.
พิลึกไหม?
๕. มีผู้ถามเราว่า
ทำไมห้ามผู้ชายมิให้ไปอยู่ที่ตามร้านข้างในแล้ว,
ทีตัวพวกกรมวังเองจึ่งไปอยู่ได้?
เราขอตอบว่า
บรรดากรมวังถือว่าเปนกะเทยทั้งนั้น!
๖.
ใครว่าผู้หญิงของเราไม่เจริญทันสมัย?
ที่จริงบัดนี้ยิ่งกว่าทันสมัยอีกเพราะข้ามสมัยด้วยซ้ำ.
ขอให้ดูที่ร้านแข่งม้าสิ!
ผู้หญิงที่นั้นผลัดจากผ้านุ่งก็สรวมกางเกงทีเดียว;
ข้ามกระโปรงอย่างไรล่ะ. จริงไหม?
๗.
ข้อเสียสำคัญของงานน่าหนาวคราวที่แล้วมานี้คือ
ไม่หนาว, ซึ่งทำให้ได้เห็นการ
"แต่งแผน"
หรือ "โก้"
หรือ "ฟรี"
น้อยไป.
๘. สมาชิกของเราผู้ ๑ รำพรรณมาว่า
"ออกนึกสงสารผู้ที่ขาดทุนในการออกร้านเพื่อหากำไรในงานนี้,
แต่ก็ยังไม่สงสารเท่าคนขอทานที่หาสตางค์ไม่ได้คุ้มค่าผ่านประตูที่เข้าไป."
๙. การขี่ม้าแทงสัตว์ ในวันหลังๆ
มีผู้ขี่ไปเฉยๆ โดยไม่แทงสัตว์เสียมาก,
เพราะเขาว่าใช้เปนเครื่องซ้อมความกล้าไปขึ้นรถเหาะ.
๑๐.
นักเลงเที่ยวกับเจ้าของร้านมีความเห็นไม่ใคร่ตรงกัน,
เพราะนักเลงเที่ยวมักจะเที่ยวอยู่จนเวลาที่สุดในวันที่สุด,
แต่เจ้าของร้านบางรายรีบเก็บของเสียตั้งแต่งานยังไม่เลิก.
ทีจะไม่ได้ อินชูรันซ์ ของไว้กระมัง?
ไว้อาลัยต่องานสวนจิตรลดา
๏ เสียดายงานออกร้านฤดูหนาว
เสียดายเสื้อโอเว่อร์โค๊ตสะโอดยาว
เสียดายแม่สาวๆ มิได้ชม
เสียแรงเตรียมเสื้อโก้ไว้โชกัน
เสียแรงเตรียมผ้าพันคอไว้ถม
ร้อนเหลือใจครั้นจะใส่เกรงเปนลม
ร้อนระบมอมลำบากแสนยากใจ
เตรียมจะเสียวเกี้ยวเจ้าสาวผมยาวสวย
หนาวไม่ช่วยชวดโอกาสขาดพิสมัย
ชวนหล่อนขึ้นรถเหาะก็ไม่ไป
มุ่งหมายไว้จะได้กอดแม่ยอดเมือง
สู้สละเงินตราห้าหกบาท
ล็อตตะรี่ฉีฉกาจไม่เป็นเรื่อง
ตั๋วอยู่เต็มกระเป๋าหนักชักจะเคือง
ไม่กระเตื้องเฉียดรางวัลสักอันเลย
หันไปแทงแข่งม้าท่าพอสู้ เอ๊ะ!
มัวดูแม่สาวๆ แม่เจ้าเอ๋ย
ใส่กางเกงแนบขาแสนน่าเชย
เลยลืมดูม้าชนะว๊ะเสียที
ตบกระเป๋าโอ้โหเบาแสนใจหาย
ได้แต่เดินกรุยกรายไม่จอดที่
ต้องเที่ยวเดินหน้าเปิ่นเสียเกินดี
จนราตรีล่วงลับกลับบ้านเอย ฯ"
[๑] |