เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลาถึง
๙ ปีเศษนั้น
มีพระอภิบาลและจิตรกรชาวอังกฤษได้รังสรรค์พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์และภาพวาดลายเส้นแสดงพระราชกรณียกิจและเป็นภาพล้อไว้ถึง
๕ ภาพ สามารถแบ่งภาพดังกล่าวได้เป็น ๒ ชุด คือ
ชุดแรก
เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์และภาพที่วาดขึ้นในคราวที่ทรงรับสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชการ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗ มีอยู่ด้วยกัน ๔
ภาพ
สองภาพแรกเป็นภาพวาดลายเส้นชนิดภาพประกอบบทความ
(Illustrator) คราวสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงเครื่องเต็มยศนายร้อยโททหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
เสด็จพระราชดำเนินไปในการประชุมพระบรมวงศ์ข้าราชการและนักเรียนไทยในยุโรป
ฟังประกาศสถาปนาพระอิสริยยศที่สถานอัครราชทูตสยาม
ณ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๗
ภาพแรกเป็นภาพพระเจ้าน้องยาเธอ
พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ
[๑]
กำลังถวายพระสังวาลปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ
ภาพนี้พบหลักฐานว่าได้ตีพิมพ์ในนิตยสารแบล็คแอนด์ไวท์
(Black & White) ฉบับประจำวันที่ ๑๖ มีนาคม ค.ศ.
๑๘๙๕ (พ.ศ. ๒๔๓๗) ส่วนภาพที่สอง พระเจ้าน้องยาเธอ
พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ
เชิญพระแสงกระบี่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
ยังไม่อาจหาที่มาของภาพได้
ภาพถัดมาเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ทรงเครื่องพลเรือนประทับพระเก้าอี้
ที่มุมบนขวาของภาพเป็นตราแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕
พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์องค์นี้ S.P.Y. หรือ Sir
Leslie Ward เป็นผู้เขียน ได้ตีพิมพ์เต็ม ๑
หน้าในวารสาร Vanity Fair ของประเทศอังกฤษ
[๒]
ฉบับลงวันที่ ๒๕ เมษายน ค.ศ. ๑๘๙๕ (พ.ศ. ๒๔๓๘)
พร้อมพระราชประวัติย่ออีก ๑ คอลัมน์
ภาพที่สี่เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์สีน้ำมันทรงเครื่องเต็มยศ
นายร้อยโททหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เซอร์เบซิล
ทอมสัน (Sir Basil Thompson)
พระอภิบาลชาวอังกฤษเป็นผู้วาด
โดยเสด็จประทับเป็นแบบเมื่อวันที่ ๘, ๒๓
กุมภาพันธ์ และ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๘
ต่อมาวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ เซอร์เบซิล
ทอมสันได้ถวายพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์องค์นี้แด่
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ซึ่งเสด็จประพาสประเทศอังกฤษ
ทรงเชิญกลับมาประเทศไทย
แล้วได้ประทานให้ประดิษฐานไว้ที่วชิราวุธวิทยาลัย
ภาพชุดที่สอง
เป็นภาพเขียนสีน้ำประเภทภาพล้อที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า
Caricature
ในภาพผู้เขียนได้จับภาพพระพักตร์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงเครื่องเต็มยศนายทหารราบเบาเดอรัมทรงมงกุฎแบบฝรั่ง
ที่มุมบนซ้ายของภาพเป็นธงช้างเผือกซึ่งเป็นธงชาติสยามในเวลานั้น
แต่วาดออกมาดูไม่เหมือนช้าง
เข้าใจว่าผู้เขียนภาพนี้คงไม่เคยเห็นช้างจริงๆ
ภาพนี้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารฉบับหนึ่ง เมื่อ ค.ศ.
๑๘๙๙ (พ.ศ. ๒๔๔๒) คราวเสด็จไปประจำการในกองพันที่
๑ กรมทหารราบเดอรัม
ภายหลังจากทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์
(Royal Military Academy, Sandhurst)
และได้ทรงอาสาไปร่วมรบในสงครามบัวร์ (Beor War)
ที่อาฟริกาพร้อมกับนายทหารราบเบาเดอรัมที่ถูกส่งไปรบใน
พ.ศ. ๒๔๔๒
แต่ทางราชการไทยและอังกฤษเกรงว่าจะเป็นอันตรายแก่พระชนม์ชีพ
จึงไม่อนุญาตให้เสด็จไปในการรบครั้งนั้น
ภาพประวัติศาสตร์ทั้ง ๕ ภาพนี้
เป็นภาพที่นิยมเขียนกันในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
ครั้นทรงจัดตั้งเมืองจำลองดุสิตธานีและทรงออกหนังสือดุสิตสมิตเป็นวารสารรายสัปดาห์ของดุสิตธานีมาตั้งแต่เดือนธันวาคม
พ.ศ. ๒๔๖๑
ก็ทรงนำวิธีการเขียนภาพประกอบรวมทั้งภาพล้อแบบที่นิยมกันในอังกฤษมาเป็นส่วนหนึ่งของวารสารดุสิตสมิตมาเผยแพร่
โดยทรงเขียนภาพล้อแบบ Caricature
พระราชทานไปลงพิมพ์เผยแพร่ในดุสิตสมิตตั้งแต่ฉบับแรก
ทั้งยังได้โปรดเกล้าฯ ให้พระยาอนุศาสน์จิตรกร
(จันทร์ จิตรกร)
จางวางกรมช่างมหาดเล็กซึ่งเป็นช่างเขียนของดุสิตสมิตเขียนภาพล้อและภาพประกอบลงในดุสิตสมิตเป็นลำดับตลอดมา
ภาพล้อแบบ Caricature นี้ ผศ. ดร.มะลิฉัตร
เอื้ออานันท์ ได้ให้คำอธิบายไว้ในพจนานุกรมศัพท์
ศิลปะว่า "ภาพวาดล้อเลียนหรือเสียดสี
วาดในลักษณะตัดทอนหรือทำให้ผิดส่วนอย่างจงใจ
เช่นเน้นลักษณะเด่นจนเกินจริง
รวมทั้งเน้นในจุดอื่นๆ เช่น ชนชั้นทางสังคม
ภาพล้อใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกจิตสำนึก
ก่ออารมณ์ตอบโต้ตั้งแต่อารมณ์ขันเบาๆ
จนถึงความรู้สึกโกรธแค้นรุนแรง
เป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างภาพประกอบเรื่อง
เป็นเครื่องมือในการวิพากษ์วิจารณ์สังคม
ศาสนาหรือการเมือง" [๓]
ในขณะที่พจนานุกรมศัพท์ศิลปะ อังกฤษ - ไทย
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้คำอธิบายศัพท์นี้ไว้ว่า
"ภาพวาดหรือรูปปั้นที่ต้องการแสดงการล้อเลียนหรือเสียดสีหรือให้ดูขบชัน
การแสดงออกตามแนวดังกล่าวมีมานานแล้ว
โดยทั่วไปจะเป็นภาพลายเส้น
มีลักษณะคล้ายภาพประกอบเรื่อง
มีเนื้อหาแสดงถึงบุคคลในด้านต่างๆ เช่น สังคม
ศาสนา หรือการเมือง
โดยวาดล้อให้ดูคล้ายลักษณะของบุคคลที่ต้องการแสดงถึง
แต่เน้นลักษณะเฉพาะตัวให้เด่นชัดเกินจริง
หรืออาจเสริมด้วยสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัวของผู้นั้น
เช่น ซิการ์ของวินส์ตัน เชอร์ชิล
อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ หมวก หนวด
และไม้เท้าของชาร์ลี แชปลิน
ดาราภาพยนตร์อังกฤษยุคภาพยนตร์เงียบ" |