ภายหลังการประกาศพระราชทานรางวัลแก่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยผู้แสดงความสามาารถเรียนรู้ในพระราชนิพนธ์รัชกาลที่
๖ เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๗๐
ได้มีประกาศพระนามและนามกรรมการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งให้เป็นผู้ตัดสินให้รางวัลแก่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยผู้แสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๔๗๐ มีพระวรวงศ์เธอ
กรมหมื่นพิทยาลงกรณ เป็นประธานกรรมการ
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต
นายกกรรมการจัดการวชิราวุธวิทยาลัย และ
มหาอำมาตย์โท พระยาสุรินทราชา เป็นกรรมการ
มีอำมาตย์เอก พระราชธรรมนิเทศ เป็นเลขานุการ
ในประกาศดังกล่าวได้กำหนดพระราชนิพนธ์ที่จะใช้สอบไว้ล่วงหน้า
๓ ปี ได้แก่ พ.ศ.๒๔๗๑ เรื่องรามเกียรติ์รัชกาลที่
๖ ชุดพิเภษณ์ถูกขับ และ ประชุมนิทานรัชกาลที่ ๖
ฉบับพระโสภณอักษรกิจ พ.ศ. ๒๔๗๒ บทละคร เรื่อง
เสียสละ และ เรื่องพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร และพ.ศ.
๒๔๗๓ เรื่อง ธรรมาธรรมะสงคราม และบทละครเรื่อง
หัวใจนักรบ โดยได้กำหนดเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสิน
ได้แก่ ความรู้ในเรื่อง
ความรู้ในข้อความสาขาที่อ้างถึงในเรื่อง
และความรู้ในเชิงโวหารและสำนวน
ทั้งนี้ผู้ที่สอบได้ที่ ๑
จะได้รับพระราชทานรางวัลเป็นหนังสือ ราคารวมประมาณ
๕๐ บาท
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๔๗๐
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต
นายกกรรมการจัดการวชิราวุธวิทยาลัย
ได้ทรงแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการดังกล่าวว่า
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระราชทรัพย์ ๘๐๐ บาท
ให้เป็นทุนสำหรับใช้จ่ายรางวัลแก่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
ผู้ที่ได้แสดงความสามารถเรียนรู้ในหนังสือพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้ทรงสถาปนาและทำนุบำรุงโรงเรียนตั้งแต่เริ่มมา
และมีผู้โดยเสด็จพระราชกุศลนี้ช่วยเหลือเงินรวมอีกราว
๓,๓๐๐ บาทกว่าๆ
ซึ่งควรจะได้ดอกเบี้ยพอกับรางวัลซึ่งจะให้เป็นหนังสือหรือสิ่งของราคาไม่เกิน
๕๐ บาท กับถ้ามีผู้อื่นสอบได้ดี
กรรมการในการนี้มีสิทธิ์ที่จะพิจารณาความชอบ
เพื่อขอพระบรมราชานุญาตจ่ายรางวัลพิเศษเพิ่มเติมให้อีกได้
แต่คาดว่าปีหนึ่งจะจ่ายไม่เกินกว่า ๑๐๐ บาท
สำหรับกรรมการรางวัลนั้น
กรรมการจัดการวชิราวุธวิทยาลัยได้มีการเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิทางอักษรศาสตร์โดยเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลไปตามความเหมาะสม
อาทิในปีพ.ศ. ๒๔๗๘
ได้มีการเสนอชื่อพระราชวรวงศ์เธอ
กรมหมื่นพิทยาลงกรณ เป็นประธาน
ส่วนกรรมการประกอบด้วย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
พระธรรมนิเทศทวยหาญ พระยาสุนทรพิพิธ โดยมี
พระวรเวทย์พิสิษฐ์ เป็นเลขานุการ ปีพ.ศ. ๒๔๘๖
กรรมการประกอบด้วยอธิบดีกรมสามัญศึกษา
ข้าราชการในกระทรวงศึกษา
และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนหนึ่งคน โดยนายกกรรมการฯ
เป็นผู้แต่งตั้ง
นอกจากจัดสอบแข่งขันแล้ว
ยังได้มีการจัดพิมพ์หนังสือพระราชนิพนธ์ซึ่งปรากฏหลักฐานว่า
ปีพ.ศ. ๒๔๘๒ หนังสือพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖
ไม่มีจำหน่ายหรือมีแต่ราคาแพง
กรรมการจัดการวชิราวุธวิทยาลัยจึงได้ให้โรงพิมพ์ช่างพิมพ์วัดสังเวช
ของกระทรวงธรรมการจัดพิมพ์เพื่อจำหน่ายแก่นักเรียนและประชาชนทั่วไปในราคาถูก
การจัดสอบแข่งขันผู้แสดงความสามารถเรียนรู้ในพระราชนิพนธ์รัชกาลที่
๖ ได้หยุดลงในห้วงเวลาหนึ่ง จนกระทั่งปีพ.ศ. ๒๕๔๐
ศาสตราจารย์ ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช
ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย (พ.ศ.๒๕๓๙-๒๕๕๐)
ได้มอบหมายให้หมวดภาษาไทยฟื้นฟูการจัดสอบแข่งขันผู้แสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖ ขึ้นอีกครั้ง
โดยจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้หลักสูตร วชิราวุธศึกษา
ด้วยตระหนักในพระปรีชาญาณ
และพระสุตาญาณอันล้ำเลิศในด้านอักษรศาสตร์ที่ปรากฏในพระราชนิพนธ์ของพระองค์ซึ่งมีครบทุกประเภท
และกอปรด้วยแนวคิด จินตนาการ
พระราชปณิธานในการอนุรักษ์พัฒนาศิลปวัฒนธรรม
ตลอดจนสภาพสังคมและคุณภาพของคนไทย
พระราชนิพนธ์ทุกเรื่องเป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าสมควรที่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยจะได้อ่านและศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมต่อไป
ในการนี้หมวดภาษาไทยได้จัดพิมพ์พระราชนิพนธ์ให้นักเรียนได้ศึกษาเป็นการภายในดังนี้
ปีการศึกษา
๒๕๔๐ |
เรื่อง
โคลนติดล้อ เมืองไทยจงตื่นเถิด และ
ลัทธิเอาอย่าง |
ปีการศึกษา
๒๕๔๑ |
เรื่อง
หัวใจนักรบ ปลุกใจเสือป่า ซ้อมรบเสือป่า
และ ฉวยอำนาจ |
ปีการศึกษา
๒๕๔๒ |
เรื่อง
มัทนะพาธา และ เวนิสวานิช |
ปีการศึกษา
๒๕๔๓ |
เรื่อง
มิตรแท้ และ นิทานทองอิน |
ปีการศึกษา
๒๕๔๔ |
เรื่อง
สาวิตรี พระหันอากาศ และ
มนุษย์สรวยหรือไม่สรวย? |
ปีการศึกษา
๒๕๔๕ |
เรื่อง
วิวาหพระสมุท ล่ามดี และ ต้นหมาปลายหมา |
ปีการศึกษา
๒๕๔๖ |
เรื่อง
ตามใจท่าน |
ปีการศึกษา
๒๕๔๗ |
เรื่อง
ปริยทรรศิกา |
ปีการศึกษา
๒๕๔๘ |
เรื่อง
หนามยอกเอาหนามบ่ง |
ปีการศึกษา
๒๕๔๙ |
เรื่อง
กุศโลบาย และ โม่โกรธ |
ปีการศึกษา
๒๕๕๐ |
เรื่อง
หัวใจชายหนุ่ม และ โพงพาง |
ปีการศึกษา
๒๕๕๑ |
เรื่อง
โคลนติดล้อ และ ตบตา |
ปีการศึกษา
๒๕๕๒ |
เรื่อง
หลวงจำเนียรเดินทาง และ จัดการรับเสด็จ |
ปีการศึกษา ๒๕๕๓ |
เรื่อง
กันป่วย และ เสียสละ |
ปีการศึกษา ๒๕๕๔ |
เรื่อง
กลแตก และ เจ้าข้า สารวัด |
ปีการศึกษา ๒๕๕๕ |
เรื่อง
ชิงนาง และ ลัทธิเอาอย่าง |
ปีการศึกษา ๒๕๕๖ |
เรื่อง
เที่ยวเมืองพระร่วง และ
เบ็ดเตล็ดห้าเรื่อง |
ปีการศึกษา ๒๕๕๗ |
เรื่อง
มหาตมะ และ งดการสมรส |
ปีการศึกษา ๒๕๕๘ |
เรื่อง
เพื่อนตาย และ คดีสำคัญ |
ปีการศึกษา ๒๕๕๙ |
เรื่อง
ความดีมีไชย และ
สร้อยคอไข่มุกด์ |
ปีการศึกษา ๒๕๖๐ |
เรื่อง
พระร่วง และ เนตรพระอิศวร |
ปีการศึกษา ๒๕๖๑ |
เรื่อง
โรเมโอและจูเลียต และ
ตั้วกอวิลสัน |
ปีการศึกษา ๒๕๖๒ |
เรื่อง
น้อยอินทเสน และ วิลสันปลอม
|
|
|
นอกจากนี้
หมวดภาษาไทยยังได้นำพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖
ที่วชิราวุธวิทยาลัยเคยจัดพิมพ์ให้นักเรียนได้ศึกษาเป็นการภายในมาตั้งแต่ปีพ.ศ.
๒๕๔๐ มาจัดพิมพ์ซ้ำเป็นชุดจำนวน ๑๔ เล่ม รวม ๓๐
เรื่อง เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี
ของวชิราวุธวิทยาลัย
สำหรับการสอบแข่งขันรางวัลพระราชทานการแสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖ ภายในโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยนั้น
ในระยะแรกไม่ได้กำหนดระดับชั้น
ต่อมาแบ่งการแข่งขันเป็น ๒ ระดับ คือ
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
และในปีพ.ศ. ๒๕๔๙
ได้ขยายการแข่งขันไปในระดับประถมศึกษา
โดยจัดการแข่งขันเป็นสองรอบ
รอบแรกเป็นการสอบข้อเขียน
เพื่อคัดเลือกนักเรียนไปสอบในรอบชิงชนะเลิศ
โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการสัมภาษณ์ อาทิ
ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงศรีนาถ สุริยะ
อดีตคณบดีคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
รองศาสตราจารย์ทิพย์สุเนตร อนัมบุตร
อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
รองศาสตราจารย์กันยารัตน์ เวชศาสตร์
อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
อาจารย์สวัสดิ์ จงกล
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำหอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดีนาร์ บุญธรรม
และรองศาสตราจารย์อิงอร สุพันธุ์วณิช
อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นต้น
ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศจะเข้ารับพระราชทานรางวัลในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรและรางวัลประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัย
โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลเฉพาะผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
และตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๕ เป็นต้นมา
ได้จัดให้ผู้รับรางวัลชนะเลิศในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นได้เข้ารับพระราชทานรางวัลด้วย