วันหนึ่งในตอนปลายปี พ.ศ. ๒๕๑๙
ซึ่งผมจบไปจากโรงเรียนกว่า ๒ ปีแล้ว แต่จู่ๆ
ก็ได้รับการติดต่อจากบุคลากรของโรงเรียน
จะเป็นคุณทองหล่อ ใจดี หรือคุณสุชาติ แก่นจันทร์
คนใดคนหนึ่งจำไม่ได้ ท่านว่า ครูจิต พึ่งประดิษฐ์
ให้เชิญไปพบที่คณะพญาไท
เมื่อตอบรับคำเชิญไปแล้ว
ก็ให้รู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อย เพราะในยุคผมเป็นนักเรียนนั้นการถูกเรียกไปพบ
สี่มหาอำนาจ คือ
ท่านผู้บังคับการและผู้กำกับคณะอีก ๓ ท่าน คือ
ครูจิต ครูรุณ และครูแม
นั้น มักจะต้องมีเรื่องมีราวถึงขั้นคอขาดบาดตายเลยทีเดียว
ยิ่งเวลานั้นครูจิต
ท่านเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งผู้บังคับการแทนท่านผู้บังคับการ
ดร.กัลย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา
ที่ยังคงรับราชการเป็นเลขาธิการพระราชวังด้วยแล้ว
ยิ่งชวนให้ครั่นเนื้อครั่นตัวไม่น้อย
แต่เมื่อเข้าไปพบท่านในค่ำวันนั้น
ความประหวั่นพรั่นพรึงพลอยมลายหายไปสิ้น
เริ่มจากท่านชวนรับประทานอาหารเย็น
เสร็จแล้วท่านส่งเอกสารปึกใหญ่ให้อ่าน
ที่แผ่นหน้าของเอกสารนั้นมีคำว่า ลับ
สีแดงประทับอยู่ด้วย
ในวันนั้นท่านยังได้กำชับให้เก็บรักษาเอกสารนี้ไว้ให้ดี
เพราะเป็นเรื่องความเป็นความตายของโรงเรียนเลยทีเดียว
เอกสารที่ครูจิตส่งให้ในวันนั้นเป็นสำเนาหนังสือราชเลขาธิการตอบคำกราบบังคมทูลของนายภิญโญ
สาธร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในฐานะนายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
ในยุครัฐบาลนายกรัฐมนตรี ธานินทร์ กรัยวิเชียร
ครูจิตเล่าว่า เมื่อนายภิญโญ สาธร
มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
และเป็นนายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยโดยตำแหน่งแล้ว
ได้นำบทวิเคราะห์สถานภาพปัจจุบันของ วชิราวุธวิทยาลัย
มาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
ที่ห้องประชุมภายในกองบังคับการ (ที่ปัจจุบันรื้อไปแล้ว)
ในวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๙
พร้อมชี้แจงให้ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯทราบรายละเอียดของบทวิเคราะห์นั้น
โดยให้ถือว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นความลัย
กับมอบหมายให้ครูจิตในตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการทำรายงานชี้แจงให้คณะกรรมการอำนวยการฯ
ทราบภายในเจ็ดวัน
ต่อมาวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๙
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในตำแหน่งนายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยได้รับหนังสือตอบจากสำนักราชเลขาธิการ
อัญเชิญพระบรมราชวินิจฉัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาให้ทราบ
คณะกรรมการอำนวยการฯ จึงมาทราบในภายหลังว่า
นอกจากจะนำบทวิเคราะห์สถานภาพปัจจุบันของวชิราวุธวิทยาลัยมาสร้างความงุนงงให้คณะกรรมการอำนวยการฯ
แล้ว นายกกรรมการอำนวยการฯ
ยังได้นำบทวิเคราะห์ดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวายด้วย
ถัดมาวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๒๐
นายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยได้เดินทางมาพบครูจิต
พึ่งประดิษฐ์ ที่โรงเรียน
และวันนั้นดูเหมือนนายกกรรมการอำนวยการฯ
จะได้ขึ้นหอประชุมพบกับครูและนักเรียนเพื่อปรับความเข้าใจเรื่องบทวิเคราะห์สถานภาพปัจจุบันของวชิราวุธวิทยาลัยด้วย
เนื่องจากเหตุการณ์นี้ได้ล่วงเลยมาเกือบ ๔๐
ปีมาแล้ว
อีกทั้งตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว
จึงขอถือโอกาสนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดมาบันทึกไว้ในจดหมายเหตุวชิราวุธ
เพื่อมิให้ประวัติศาสตร์หน้านี้ต้องสูญหายไปตามกาลเวลา